วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2559

ความเป็นมาของโจรสลัด ตอนที่3


ปี ค.ศ.1604 กษัตริย์ เจมส์ที่ 2 ซึ่ง ไม่ค่อยชอบนโยบายไพรเวเทียร์สักเท่าไร แอบไปเซ็นสัญญาสันติภาพกับสเปน ยังผลให้สลัดอังกฤษทั้งหลาย กลายเป็นโจรนอกกฎหมายไปโดยไม่รู้ตัว บ้างก็กลับมารับราชการเป็นทหาร ที่ไม่ถูกกับชีวิตเรียบง่าย ก็ออกไปเป็นโจรสลัด (Pirates) จริงๆ จะได้ปล้น โดยไม่ต้องนับญาติกันเหมือนก่อน บ้างก็กลายเป็นพวก บัคคาเนียร์ (Buccaneers) ซึ่งเป็นคำเรียกบุรุษทั้งสุภาพ และไม่สุภาพสัญชาติอังกฤษ ดัตช์ หรือฝรั่งเศสผู้ได้รับการสนับสนุน จากรัฐบาลของตนให้ปล้นสะดมเรือ และเมืองท่าของสเปน

 "บัคคาเนียร์" มาจากคำว่า "เนื้อแห้ง" ในภาษาฝรั่งเศส คงเนื่องมาจากชีวิตในเรือ ที่ไม่ค่อยมีอะไรกิน บัคคาเนียร์ส่วนใหญ่เป็นคนใช้หนีนาย ทหารเก่า ผู้ใช้แรงงาน และชายชาตรีผู้รักการผจญภัย นายโจรเหล่านี้ไม่ได้ถูกว่าจ้างเป็นหลักเป็นฐาน แต่ทุกครั้งที่ทำความเสียหายให้กับสเปนได้ก็จะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินทอง หรือตำแหน่งทางการเมือง

แหล่งชุมนุมแรกของเหล่าบัคคาเนียร์คือ เกาะตอร์ตูก้า (นอกชายฝั่งไฮติในปัจจุบัน) ต่อมาจึงย้ายไปที่จาเมกา บัคคาเนียร์ที่โด่งดังก็มี เซอร์เฮนรี่ มอร์แกน มีชื่อเสียงทางด้านการบุกเข้ายึดเมืองท่าสเปนแถวปานามา จาเมกาและคอสตาริกา ยึดได้แล้วก็ฆ่าเจ้าเมือง เก็บทรัพย์ แล้วเผาให้ราบ เมืองสำคัญที่เจอแบบนี้คือปานามาซิตี้ ซึ่งนอกจากจะทำให้มอร์แกนรวยกว่าเดิมทันตาเห็นแล้วยังได้ บรรดาศักดิ์เป็นอัศวิน แถมตำแหน่งเจ้าเมืองจาเมกาอีกต่างหาก

โจรสลัดนอกกฎหมายที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นตำนานมาถึงทุกวันนี้มีอยู่หลายคน ที่ดังที่สุดคงเป็น กัปตันคิดด์ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้มีฝีมือ ในการปล้นอะไรสักเท่าไหร่ แถมปกครองคนก็ไม่เก่ง เจอลูกน้องปฏิวัติประจำ แต่ก่อนถูกแขวนคอดันส่งจดหมาย ไปยังโฆษกสภาผู้แทนของอังกฤษ ขออิสรภาพแลกกับการเปิดเผย ที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ ท่านโฆษกฯไม่เล่นด้วย และคิดด์ก็ถูกแขวนคอตาย ไปตามกำหนด

แต่คนรุ่นหลังๆ ลงทุนลงแรง ตามหาสมบัติกัปตันคิดด์กันจ้าละหวั่น จนสมบัติตัวเองเกลี้ยงไปหลายคนก็ยังไม่มีใครเคยได้เจอ อีกคนคือ อ้ายเคราดำ (Balckbeard) ผู้ดังเพราะความโหด ส่วนสาวๆ ที่สร้างชื่อในทางนี้ก็คือ แอน บอนนี่ และ แมรี่ รี้ด คู่หูคู่ปล้นที่เล่าลือกันว่ากูมเกรียมกว่าผู้ชายหลายเท่า

แม้ว่าโจรสลัดแบบที่เห็นในหนัง จะหมดไปตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 เนื่องจากวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีช่วยให้การสื่อสาร การเดินทางและการค้าเป็นไปโดยสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องรอนแรมในเรือนานๆเหมือนเมื่อก่อน แต่โจรสลัดก็ยังมีอยู่ในปัจจุบัน เรายังมีสลัดอากาศมายึดเครื่องบินให้หวาดเสียวเล่น การเข้าโจมตีเรือเพื่อปล้นทรัพย์ หรือจับคนไปเรียกค่าไถ่ ก็ยังมีอยู่ในทะเลทั่วโลก

นิตยสารไทม์ยังเคยสรุปไว้ในปี ค.ศ. 1997 (พ.ศ.2540) ว่า สลัดแขกอาระเบียน มีอาวุธทันสมัยที่สุด ส่วนสลัดแอฟริกันตะวันตกยังเชื่อถือมีด และเรือแคนูขุดเองอยู่ ส่วนทางตะวันออกโจรสลัด มักเป็นสมาชิกองค์กรอาชญากรรม


>> ที่มา <<

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น